"สตาร์สีทอง" ดาวดวงเด่นแห่งตะวันออก
หนึ่งในอัญมณีที่คงสภาพธรรมชาติไว้ได้มากที่สุด ผ่านการตกแต่งด้วยฝีมือมนุษย์น้อยที่สุดคงไม่พ้น"พลอยสาแหรกหลังเบี้ย" หรือที่เรียกกันว่า "พลอยสตาร์" พลอยชนิดนี้ผ่านการขัดแต่งน้อยที่สุด เพราะมีการขัดเงาเพียงด้านหน้าพลอยเท่านั้น อีกทั้งไม่ได้ผ่านความร้อนสูงจากการเผา เพราะว่าการเผาจะทำให้แสงสตาร์หายไป ปัจจุบันนี้เราแทบไม่เห็นพลอยชนิดนี้ในตลาดอัญมณี สาเหตุมาาการทำเหมืองเปิด(Large scale mining)อย่างกว้างขวางในอดีต ได้ส่งผลให้ปริมาณพลอยสตาร์ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งประกอบกับการนำพลอยสตาร์เป็นวัตถุดิบไปเผาให้เนื้อโปร่งใสเพื่อทำพลอยเจียรนัย (พลอยเหลี่ยม/Faceted Gems) ก็ยิ่งเร่งให้พลอยสตาร์ลดปริมาณลงไปอย่างรวดเร็ว พลอยจำนวนน้อยในปัจจุบันมักได้มาจากชาวบ้านที่ขุดด้วยมือและเจียรนัยโดยคนท้องถิ่น (Handicraft) ไม่ใช่การทำเชิงอุตสาหกรรม จึงมีปริมาณน้อย
พลอยสตาร์ไทยเป็นอัญมณีที่กำเนิดอยู่ในชั้นหินบะซอลต์ (หินตับเป็ด) ซึ่งเป็นหินภูเขาไฟแต่ดั้งเดิม หินลาวาที่ประทุออกมาได้พาเอาแร่คอรันดัมหรือว่าแร่พลอยให้ขึ้นมาใกล้ผิวโลก พลอยสตาร์ในชั้นหินบะซอลต์ที่อุดมไปด้วยแร่เหล็ก ทำให้มีสีพื้นหลังค่อนข้างเข้ม พลอยกำเนิดหินภูเขาไปเลยถูกจำแนกโดยการเรียกชื่อรวมๆว่า "Black Star Sapphire" / "Basaltic Star Sapphire" แตกต่างจากพลอยสตาร์ที่กำเนิดในชั้นหินแปรซึ่งมีสีพื้นหลังที่เบาบางอ่อนกว่า สตาร์ไทยส่วนใหญ่ที่พบ 90% จะมีสีเทาเข้มถึงดำ และแม้ว่าอีก 10% เป็นสตาร์ชนิดที่มีสีสันต่างๆ เช่นน้ำเงิน เขียว น้ำตาล แต่ก็จะถูกเรียกคลุมไปทั้งหมดว่ากลุ่ม "ฺBlack Star" อันมีนัยว่าพลอยสตาร์จากแหล่งหินภูเขาไฟ แนวคิดคล้ายกับการเรียก "Black Opal" ที่มีพื้นหลังสีเข้มกว่าชนิด "Common Opal" ซึ่งมีพื้นสีเบาบาง
สำหรับพลอยสตาร์ของไทยนั้นแสงสตาร์ (Asterism) มีความคมชัดมาก (Contrast) เพระแสงสตาร์นั้นตัดกับสีพื้นหลังที่เข้มจึงทำให้โดดเด่นเห็นแต่ไกล ลำแสงสตาร์เกิดมาจากการรวมตัวของเส้นเข็มฮีมาไตท์ (Hematite Needles) ที่สะท้อนแสงวาวคล้ายโลหะ ส่วนใหญ่แสงสตาร์มีสีขาวแบบเงินยวง (Silvery Star Ray) ยกเว้นกลุ่มสตาร์สีอาจมีสีฟ้า น้ำเงิน เขียวจางๆ ชนิดที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ และเป็นชนิดที่หาพบได้ยากที่สุด คือชนิดที่มีแสงสตาร์สีเหลืองทอง เราเรียกกันว่า "พลอยสตาร์ทอง" (Golden Star Sapphire)
"สตาร์สีทอง" ดาวดวงเด่นแห่งภาคตะวันออก : พลอยสตาร์สีทองจัดเป็นประเภทสตาร์สีที่มีพื้นหลังเป็นสีน้ำตาล ไล่เฉดสีตั้งแต่น้ำตาลอ่อนไปจนน้ำตาลเข้ม (ฺBrown Body Color) เมื่อมีแสงกระทบจะปรากฏแสงสตาร์สีทองวาวคล้ายโลหะ เมื่อตัดกับพื้นฉากหลังสีเข้มด้วยแล้วสตาร์สีทองจะดูโดดเด่นมาก สตาร์แสงสีทองในประเทศไทยเราพบเพียงแหล่งเดียวเท่านั้นคือในเขตพื้นที่ตำบลบางกระจะ จังหวัดจันทบุรี และยังเป็นแหล่งเดียวในโลกอีกด้วย พลอยนี้เป็นสตาร์ชนิดที่หายากที่สุดและมีมูลค่าสูงสูดจากแหล่งภาคภาคตะวันออกของไทย นับเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ได้อย่างหนึ่งของบางกะจะ
การเกิดปรากฏการณ์แสงสตาร์ไทยนั้นมาจากเส้นเข็มแร่ฮีมาไตท์ที่วาวแบบโลหะ เรียงตัวอยู่ในโครงสร้างผลึกคอรันดัมที่มีรูปทรงหกเหลี่ยม เส้นใยแร่เหล่านี้วางตัวขนานไปกับฐานผลึก ความหนาแน่นของเส้นใยแร่ยิ่งมากเท่าไรแสงสตาร์ก็ยิ่งชัดเจน เมื่อเราเปรียบเทียบกับพลอยสตาร์ที่ก่อกำเนิดในชั้นหินแปร พลอยในชั้นหินแปรนั้นมีแสงสตาร์ที่เกิดจากเส้นใยแร่รูไทล์ (Rutile) ซึ่งเป็นแร่อีกชนิดหนึ่งต่างจากแร่ฮีมาไตท์ แสงสตาร์จะมีลักษณะวาวอย่างแพรไหม ซึ่งความวาวนั้นยังต่ำกว่าพลอยสตาร์หินภูเขาไฟ (ตระกูล Black Star )
การประเมินคุณภาพสตาร์ทองเราก็ใช้หลักการประเมินพลอยสตาร์ทั่วๆไป คือสตาร์ที่ดีแสงสตาร์ต้องชัด ขาสตาร์คมกริบและตั้งอยู่กึ่งกลางเม็ดพลอย ไม่เอียงข้างไปทางใดทางหนึ่ง หน้าพลอยหรือหลังเบี้ยควรมีความโค้งนูนไม่แบนราบ สีพื้นหลังต้องมีสีน้ำตาล แสงสตาร์ต้องมีสีทองชัดเจน วิธีการตรวจแสงสตาร์ที่ดีที่สุดคือให้ส่องดูสตาร์ในแสงแดดถ้าเป็นไปได้ ถ้าในกรณีไม่มีแดดก็ให้ใช้ไฟสีขาว (Day Light)เท่านั้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้ไฟสีเหลืองจากหลอดทังสเตน (Incandescent Light / Warm Light) เพราะอาจทำให้การวินิจฉัยสีผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง
แม้ว่าพลอยสตาร์จะมีความเป็นธรรมชาติสูง แต่ก็ควรจะรับการตรวจประเมินจากห้องปฏิบัติที่มีความชำนาญ เพราะว่าในปัจจุบันนี้มีความเป็นไปได้ที่อัญมณีอาจผ่านการปรับปรุงคุณภาพโดยกรรมวิธีใดวิธีหนึ่งโดยที่เราไม่ทราบ ไม่ว่าการทำ Star Diffusion (สตาร์สังเคราะห์) การย้อมสี การเคลือบพลอยอุดพลอยด้วยแก้วซิลิก้าเพื่อปิดซ่อนรอยแตก (Impregnation and Filler with Silica Glass) ตลอดจนพลอยปะและพลอยประกบ (Doublet) เพื่อเพิ่มขนาดและน้ำหนัก เนื่องจากพลอยธรรมชาติที่สภาพสมบูรณ์นั้นหายากกว่าในอดีต ดังนั้นขบวนการเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในปรับปรุงพลอยคุณภาพต่ำเพื่อเพื่มมูลค่าทางการค้า และนั่นเป็นสิ่งลดทอนความเป็นธรรมชาติของอัญมณีลงไป เอกสารประกอบการตรวจควรระบุรายละเอียด ไม่ว่าขนาดน้ำหนัก สัดส่วน รูปทรง โดยเฉพาะสีพื้นหลัง (Body color) ของพลอยสตาร์สีทองต้องถูกระบุเป็นสีน้ำตาล (ฺBrown) และสิ่งที่ขาดมิได้คือต้องมีภาพถ่ายของอัญมณีนั้นบนเอกสาร
พลอยสาแหรกหรือพลอยสตาร์ถูกจัดอยู่ในพวกอัญมณีที่มีคุณลักษณะพิเศษ ที่สามารถแสดงปรากฏการณ์ทางแสงได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งเราเรียกว่าประเภท "Phenomenal Gems" หรือ"พลอยปรากฏการณ์" ปรากฏการณ์พิเศษที่เรารู้จักคุ้นเคยได้แก่ปราฏการณ์ตาแมว (Chatoyancy) การเปลี่ยนสี (Colour Change) การแสดงสีรุ้ง (Iridescent) และ ปรากฏการณ์สตาร์ (Asterism) เป็นต้น โดยเฉพาะปรากฏการณ์ Asterism เกิดขึ้นได้ยาก โดยเฉพาะแสงสตาร์นั้นเกิดจากการเรียงตัวของเส้นแร่อย่างสม่ำเสมออยู่ภายในเนื้อพลอย การก่อตัวเป็นไปอย่างช้าๆกินเวลาเนิ่นนานนับล้านปีจึงจะมีความสมบูรณ์ อัญมณีนี้เป็นผลงานสร้างสรรชิ้นเอกของธรรมชาติเปรียบดั่งปฏิมากรรมแห่งผืนธรณี คือความงดงามอันซ่อนเร้นภายใต้พิภพที่รอการค้นพบและรอการตกแต่งขัดเงาโดยฝีมือมนุษย์ เพื่อให้ความงดงามนั้นเปล่งแสงออกมาสู่สายตา อัญมณีเหล่านี้เปรียบดังของขวัญล้ำค่าน่าอัศจรรย์ที่ธรรมชาติมอบให้มวลมนุษย์
ศิริวัฒน์ เจียมอนุสรณ์ (FGA)
1 พฤศจิกายน 2564