ความลับแห่งอัญมณี "สตาร์ 12 แฉก"
ปรากฏการณ์สตาร์ (ASterism) สามารถเกิดได้กับอัญมณีหลายตระกูล ที่มีชื่อเสียงและมีมูลค่าสูงในตลาดอัญมณีคงไม่พ้น พลอยสตาร์เนื้อแข็ง หรือที่เรียกว่าพลอยคอรันดัม (ตระกูลแซฟไฟร์-ทับทิม) ปรากฏการณ์เกิดจากเส้นใยแร่บางชนิดที่อยู่ในเนื้อพลอย โดยมีการเรียงตัวเป็นระเบียบขนานไปกับฐานผลึกทรงหกเหลี่ยมของคอรันดัม เส้นใยแร่มีขนาดเล็กมากและหนาแน่นพอที่จะสะท้อนแสงเป็นรูปดาวหกแฉกที่ผิวหน้าพลอย ความหนาแน่นมากเท่าไรสตาร์ก็ยิ่งชัดเจนตามปริมาณของเส้นใย
เส้นใยแร่ที่ก่อให้เกิดแสงสตาร์จำแนกได้สองชนิดคือ
1. เส้นไหมรูไทล์ มีขนาดเล็กมากเลยถูกเรียกว่า"เส้นไหม" (Rutile Silks) เส้นใยแร่ชนิดรูไทล์พบได้ทั่วไปในอัญมณีชนิดต่างๆ ในพลอยคอรันดัมเราพบทั้งพลอยจากแหล่งกำเนิดในหินแปร และพลอยกำเนิดในภูเขาไฟ (บะซอลต์) แสงสตาร์ที่เกิดจากแร่รูไทล์มีความวาวคล้ายแพรไหม (Silky Luster)
2. เส้นเข็มฮีมาไทต์ เป็นเส้นใยที่เป็นเกล็ดแบนยาว เรียงตัวไปตามผลึกรูปหกเหลี่ยมเช่นเดียวกับประเภทแรกก่อให้เกิดแสงสตาร์หกแฉก ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่าจึงเรียกว่าเส้นเข็ม (็Hematite Needles/Platelete) เส้นเข็มฮีมาไทต์พบเฉพาะในคอรันดัมที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กจากกำเนิดหินภูเขาไฟ เพราะมีองค์ประกอบของแร่เหล็ก (Fe) เส้นใยแร่ฮีมาไทต์จะให้ความมันวาวคล้ายโลหะ (Metalic Luster)
ปรากฏการณ์สตาร์ 12 แฉก
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากคือพลอยสตาร์คอรันดัมที่มีแสงสตาร์มากกว่า 6 แฉก เท่าที่พบโดยทั่วไปส่วนใหญ่มักเป็นในลักษณะสตาร์ขาแซม ตั้งแต่ 7-9 แฉก ซึ่งไม่เป็นที่นิยมในหมู่นักสะสม สตาร์ที่สมบูรณ์นั้นต้องมีขาหรือแฉกสตาร์มากถึง 12 แฉก ซึ่งดูสมมาตรสวยงาม ปรากฏการณ์ 12 แฉกนั้นเกิดจากพลอยเม็ดนั้นต้องประกอบด้วยเส้นใยแร่ถึงสองชุดและเป็นต่างชนิดกันมาเกิดอยู่ร่วมกัน นั่นก็คือเส้นใยแร่รูไทล์ และ เส้นเข็มแร่ฮีมาไทต์ เกิดขึ้นพร้อมกันหรืออยู่ร่วมกัน (Rutile slilks incoporated with hematite needles) ในลักษณะซ้อนเหลื่อมกันอยู่ในพลอยก้อนเดียวกัน นั่นเป็นความบังเอิญที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่ง มันเป็นมหัศจรรย์ของธรรมชาติล้วนๆ เมื่อพลอยชนิดนี้กระทบกับแสงก็จะปรากฏสตาร์ 12 แฉก ดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลอย่างยิ่ง พลอยสตาร์แซฟไฟร์แบบ 12 แฉกนั้นพบได้เฉพาะในแหล่งหินภูเขาไฟเท่านั้น ตามที่กล่าวมาแล้วว่าต้องเป็นพื้นที่ภูมิศาสตร์ธรณีที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก เช่น ประเทศไทย กัมพูชา ออสเตรเลีย และบางประเทศในอาฟริกาเป็นต้น
(Credit: Gem-A)
ด้านบนเป็นภาพขยายเส้นไหมรูไทล์สีขาว (ลูกศรสีแดง) และเส้นเข็มฮีมาไทต์สีเข้ม (ลูกศรสีฟ้า) ที่เกิดอยู่รวมกันภายในเนื้อผลึกคอรันดัม
(Credit : Gem-A)
สำหรับในประเทศไทยพบลักษณะสตาร์ 12 แฉกได้บ่อยในพื้นที่ อ.บ่อพลอย กาญจนบุรี จัดว่าพลอยที่นี่มีลักษณะขาสตาร์ที่สมบูรณ์ครบตามจำนวน 12 แฉก ทว่าก้อนผลึกที่พบส่วนใหญ่ค่อนข้างบาง เมื่อเจียรนัยแล้วพลอยจะมีรูปร่างแบน (Table flat) เนื้อพลอยเนียนเป็นเหลือบสีเทาเงิน ความวาวดีมาก การที่ผลึกบางนั้นเกิดจากความหนาแน่นของเส้นเข็มแร่ฮีมาไทต์ที่ก่อตัวในเนื้อคอรันดัม (Exsolusion of hematite needles) การขยายตัวของเส้นเข็มได้ดันให้เนื้อคอรันดัมแยกออกเป็นชั้นๆแบบขั้นบันได (คล้ายขนมชั้น) แต่ละชั้น (Layer) หนาเฉลี่ยไม่เกิน 5-7 มิลลิเมตร ส่วนคอรันดัมที่พบตำบลบางกะจะ จันทบุรีนั้นมีลักษณะที่หนากว่า และอาจพบสีอืนๆนอกเหนือไปจากแบล็กสตาร์ ต่างประเทศพบในออสเตรเลียและในประเทศแถบแอฟริกาที่ซึ่งพบได้เพียงชนิดแบล็กสตาร์เท่านั้น
(ภาพล่างตัวอย่างพลอยสตาร์ขนาด 11.17 กะรัตที่มีแฉกสตาร์ที่สมบูรณ์)
(Credit: คุณหมอโอฬาร)
พลอยสตาร์ 12 แฉกเป็นอัญมณีหายาก (Rare Gem) ที่ควรต่อการสะสม เพราะปรากฏการณ์ 12-rays asterism เกิดขึ้นได้ยากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลอยที่มีสภาพสมบูรณ์พบได้ไม่บ่อยนัก ยิ่งทำให้พลอยตัวอย่างสำหรับใช้ในการศึกษาแทบหาไม่ได้เลย ท้ายนี้ขอกล่าวขอบคุณ หมอโอฬาร สุวรรณอภิชน ที่เอื้อภาพตัวอย่างสตาร์สำหรับประกอบบทความนี้ด้วยครับ
ศิริวัฒน์ เจียมอนุสรณ์ (FGA)
30 กรกฎาคม 2564