ดีมานทอยด์และสฟีน
ธรรมชาติช่างอัศจรรย์ที่สร้างสิ่งคล้ายคลึงราวกับฝาแฝดที่แทบแยกจากกันไม่ออก ลักษณะเช่นนี้ในอัญมณีเราเรียกว่า "พลอยคล้ายคลึง" (Simulant Gems) ผมจะกล่าวถึงอัญมณีสองชนิดที่พ้องกันทั้งสีสันและคุณสมบัติทางแสง ถ้าเราดูอย่างผิวเผินจะแยกออกจากกันได้ยาก อัญมณีทั้งสองคือ Sphene และ Demantoid
สิ่งที่เหมือนกันคืออัญมณีทั้งสองมีระดับสีที่ใกล้เคียงกัน มีความวาวแบบกึ่งเพชร และกระจายแสงเป็นสีรุ้ง (Dispersion)ได้สูงกว่าเพชร ในประเด็นของสีนั้นเราพบได้ทั้งชนิด Chrome Demantoid และ Chrome Sphene ที่มีสีเขียวคล้ายกัน เพราะว่าทั้งสองได้สีเขียวจากธาตุโครเมี่ยม และยังมีชนิดธรรมดาที่มีสีเขียวอมเหลือง ไปจนสีเขียวเจือน้ำตาล นอกจากสีสันที่ดูล้อเลียนกันแล้ว ยังกระจายแสงเป็นสีรุ้งได้โดดเด่นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพลอยสีอ่อนเราเห็นได้ชัดเจนมาก กล่าวได้ว่าเพชรยังต้องอาย เพราะว่า Demantoid และ Sphene มีค่าการกระจายแสงที่ระดับ 0.057 และ 0.050 ตามลำดับ ในขณะที่การกระจายแสงของเพชรอยู่ที่ระดับ 0.044
ในความคล้ายคลึงย่อมมีความแตกต่าง เรามาพิจารณาดูอย่างคร่าวๆกันครับ โดยสังเกตด้วยตาเปล่า หรืออาจใช้แว่นขยาย10x มาช่วยก็ได้ แค่นี้เราก็สามารถแยกพลอยทั้งสองออกจากกันได้แล้ว ลองดูครับ ก่อนอื่นให้เล็งจากหน้าพลอยเข้าไปที่ก้นพลอย แล้วพิจารณาดูที่สันเหลี่ยมหรือขอบเหลี่ยมตรงก้นพลอย (Pavillion) ถ้าเราเห็นภาพขอบเหลี่ยมเบลอๆคล้ายกันเห็นภาพซ้อน นั่นแหละคือพลอย Sphene แต่ถ้ามองแล้วเหลี่ยมมีลักษณะคมกริบชัดเจน เห็นสันเหลี่ยมเพียงหนึ่งอันไม่เป็นภาพซ้อน ลักษณะนี้คือ Demantoid
(ภาพ#1 ภาพขยายทำให้เราเห็นเหลี่ยมเบลอในลักษณะภาพซ้อนของ Sphene)
(ภาพ#2ด้านล่างเป็นภาพขยายแสดงเหลี่ยมที่คมชัดของ Demandtoid)

คำอธิบาย : พลอย Demantoid นั้นมีลักษณะผลึกที่ทำให้แสงหักเหเดี่ยว (Single Reflective) มีค่าหักเหแสงเพียงค่าเดียว ส่วน Sphene โครงสร้างผลึกทำให้เกิดลำแสงหักเหคู่ กล่าวคือมีค่าหักเหแสงสองค่า และค่าหักเหแสงคู่ใน Sphene นั้นมีความต่างศักดิ์ต่อกัน (Birefringence) จึงทำให้เรามองเห็นภาพซ้อนของเหลี่ยมด้านใน
อันดับต่อมา ให้เราสังเกตลักษณะการแสดงสีของพลอยกันครับ โดยการพลิกพลอยไปมาในหลายทิศทา่ง เราจะเห็นว่า Demantoid มีเพียงสีเดียวในทุกมุมมอง แต่ Sphene เราเห็นสีหลัก พร้อมๆกับสีแฝงอีกสองสี คือเหลืองอมแดง และขาว (Colourless) เป็นลักษณะสามสีปนอยู่ด้วยกัน (Trichroism)
คำอธิบาย: พลอยที่มีลำแสงหักเหเดี่ยวจะแสดงสีเพียงสีเดียวในทุกทิศทาง ส่วนพลอยที่มีลำแสงหักเหคู่นั้นอาจมีคุณสมบัติแสดงสีที่แตกต่างในทิศทางที่ต่างกันได้ครับ
ที่กล่าวมาเป็นกรรมวิธีในแยกแยะพลอยคล้ายคลึงหรือพลอยคู่แฝดทั้งสองชนิดออกจากกันอย่างง่ายๆ ไม่ต้องไปถึง Gem Lab หรอกครับ พลอยสองชนิดนี้อาจไม่เป็นที่คุ้นเคยหรือเป็นที่รู้จักสำหรับเพื่อนๆบางท่าน ทว่าพลอยนอกกระแสทั้งสองเปี่ยมด้วยเสน่ย์น่าหลงใหล เพื่อนๆที่มีโอกาสไปเที่ยวงานแสดงอัญมณี (Bangkok Gems) ลองมองหาเอามาสะสมบ้างนะครับ
ศิริวัฒน์ เจียมอนุสรณ์
ึ7 มิถุนายน 2563