สีหายากในทัวร์มาลีน
(โครมทัวร์มาลีน และ พาไรบาทัวร์มาลีน)
"ทัวร์มาลีน" อัญมณีแฟนซีหลากสีสดใส ที่นักออกแบบเครื่องประดับนิยมนำไปสร้างสรรประดับชิ้นงาน แม้ว่าอัญมณีนี้มีความแวววาวไม่สูงนัก (ระดับเรซิน-แก้ว) แต่มีเสน่ย์ที่มีสีสรรให้เลือกครบรอบกงล้อแห่งสี (Color Wheel) และในก้อนผลึกหนึ่งอาจมีหลายสีผสมกัน (Multicolor)
การแบ่งชนิดทัวร์มาลีนเราตั้งชื่อเรียกตามสีเช่นอัญมณีอื่นๆ ในทางอัญมณีศาตร์นั้นเราวิเคราะห์จากธาตุผ่านที่เป็นตัวการให้สีในพลอย บางสีนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้ยาก และการแยกแยะด้วยสายตาเพื่อระบุเอกลักษณ์อาจทำได้ไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ยังไม่มีทักษะ ในบทความนี้ผมจะกล่าวเจาะจงไปที่สีเขียวของโครมทัวร์มาลีน และสีฟ้าอมเขียวเรืองแสงของพาไรบา ซี่งชนิดหลังนี้มีสีที่ถ่ายทอดได้ยากไม่ว่าจะด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพ หรือเครื่องพิมพ์ก็ตาม เราเรียกลักษณะสี "Out of Gamut" หมายถึงเลยขีดความสามารถของอุปกรณ์
Green Tourmaline & Chrome Tourmaline
ไม่ว่าการแยกแยะหยกชนิดเนฟไฟร์ทจากชนิดเจไดท์ หรือว่าการแยกพัดพารัดชาจากแซฟไฟร์สีส้มอาจไม่ง่ายนักถ้าไม่มีทักษะ เช่นเดียวกันก็มีผู้คนที่อาจสับสนในการแยก Green Tourmaline จาก Chrome Tourmaline
Green Toumaline : คือทัวร์มาลีนสีเขียว ที่ได้สีเขียวอันเกิดจากธาตุเหล็ก (Fe) เป็นสีเขียวลักษณะคล้ำที่เกิดจากการดูดกลืนแสงสูง ถ้านึกภาพไม่ออก ให้ลองไปดูพลอยเขียวส่อง ลองเลือกชนิดที่สีเข้มคล้ำๆ ประมาณว่าต้องส่องกับแดดจึงจะเห็นสีเขียว ด้วยรูปทรงผลึกธรรมชาติที่ยาวแบบ Trigonal Prism การเจียรนัยเพื่อมิให้สีพลอยคล้ำเข้มเกินไปจึงต้องเจียรนัยขนานตามความยาวผลึก (ขนานไปกับแกน C) ดังนั้นเราจึงมักเห็นพลอยรูปร่าง Rectangular ที่ค่อนข้างยาว ถ้าหากเจียรนัยในทิศทางตรงกันข้ามเราก็จะเห็นพลอยที่คล้ำมืดครับ
ทัวร์มาลีนเขียวค่อนข้างแพร่หลายพบได้ทั่วไป ราว 80-90% ของทัวร์มาลีนที่มีสีเขียวก็คือ Common Green Tourmaline นั่นเอง โดยทั่วไปเนื้อผลึกพลอยค่อนข้างสะอาด มีตำหนิน้อยหรือน้อยมาก เพียงเราเจียรนัยพลอยในทิศทางที่แสดงสีไม่เข้มเกินไปจะสวยงาม ก็เป็นพลอยน่าสะสมอย่างหนึ่ง
Chrome Tourmaline :ชื่อพลอยก็บ่งบอกว่าเกี่ยวข้องกับธาตุโครเมี่ยม (Cr) ซึ่งเป็นธาตุให้สีพลอยที่สวยที่สุด เช่นในทับทิม มรกต อเล็กซานไดรท์ ซาโวไรท์ เป็นต้น สีเขียวของ Chrome Tourmaline จึงเป็นสีเขียวสดใส เจิดจ้า (Vibrant Green) หรือ Emerald Green ซึ่งผมเคยกล่าวไว้ว่าเป็นสีคู่แข่งสูสีกับ Emerald ครับ Emerald มักเต็มไปด้วยตำหนิมลทินต่างๆ แถมยังเปราะแตกง่ายไม่คงทน ส่วน Chrome Tourmaline นั้นเนื้อสะอาดและมีความแข็งและทนทานบึกบึนกว่า คุณสมบัติตรงนี้ก็ชนะ Emerald แบบขาดลอยได้เลย
แหล่งที่พบได้แก่ บราซิล มาร์ดากัสการ์ แทนซาเนียเป็นต้น Chrome Tourmaline ชนิดที่มีธาตุวานาเดียม (V) ร่วมอยู่ด้วยจะมีสีที่ใกล้เคียง Columbian Emerald เลยทีเดียว ทำให้ผู้ค้าพลอยบางท่านนำไปปะปนกับพลอยซาโวไรท์การ์เน็ตที่มีราคาสูง ผมเคยตรวจพบในตลาดกลางค้าพลอยมาแล้ว และได้ตักเตือนเพื่อนพ่อค้าด้วยกัน ถ้าดูด้วยตาเปล่าเราจะแยกไม่ออก ดังนั้นการนำไปตรวจหาค่า Refractive Index จะเป็นวิธีที่รวบรัดและสรูปได้เร็วที่สุดในการแยก Chrome Tourmaline จากซาโวไรท์ได้ครับ
Paraiba Tourmaline : เป็นชื่อพลอยที่ผู้คนรู้จักกันน้อย เพราะความหายากซึ่งมาจากแหล่งพิกัดทางภูมิศาสตร์เพียงแห่งเดียว คือค้นพบในพื้นที่รํฐ Paraiba ประเทศบราซิล คล้ายกับพลอย Tzavorite และ Tanzanite ที่ตั้งชื่อตามพิกัดทางภูมิศาสตร์ที่พบเพียงแห่งเดียว มีการค้นพบ Paraiba Tourmaline ในปี1987 หลังจากนั้นไม่กี่ปีก็เริ่มเป็นที่รู้จักในแวดวงอัญมณี ด้วยสีที่โดดเด่นของสีฟ้ามินต์เจือสีเขียวอ่อนเรืองแสง (Neon Greenish Mint Blue) อันเป็นเอกลักษณ์ที่ทรงเสน่ย์ ได้ดึงดูดความสนใจกลุ่มนักออกแบบเครื่องประดับแนว Fine Jewellery โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ที่มีชื่อเสียง มีผลให้ราคาพลอยนีัได้รับความนิยมและมีราคาทะยานสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
การที่เป็นพลอย Rare Gem ที่กำเนิดจากแหล่งที่จำกัด ปริมาณพลอยจึงไม่ค่อยกระจายไปสู่วงกว้าง การเข้าถึงได้ยากทำให้คนจำนวนไม่น้อยเข้าใจเรื่องสีพลอย Paraiba อย่างค่อนข้างคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ศึกษาจากภาพถ่ายมีแนวโน้มสูงที่จะไขว้เขว บ้างก็เข้าใจว่าเป็นสีฟ้าแบบ Swiss Blue Topaz (Iradiated) หรือว่าสีฟ้าของพลอย"รัตนคีรี" หรือเพทาย"บ่อข่า" (สีฟ้าจากการเผา) ซึ่งในความเป็นจริงไม่เหมือนชนิดใดทั้งสิ้นนะครับ และยังไม่คล้ายสีฟ้าเข้ม-น้ำเงินของ Indicolite Tourmaline ที่ดูเฉื่อยๆไม่เรืองแสง เนื่องจากสีของ Paraiba นั้นเกิดจากธาตุ Copper (Cu) และ Manganese (Mn) ตำแหน่งสีของเขามีเอกลักษณ์ที่ถ่ายทอดได้ยาก ไม่ว่าด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพและเครื่องพิมพ์ ยิ่งเป็นสิ่งพิมพ์ด้วยแล้วความคลาดเคลือนเป็นไปได้สูง ถ้าจะเปรียบเปรยให้ใกล้เคียง ลองจินตนาการถึงทอฟฟี่รสมินท์แบบย้อนยุค ทอฟฟีโบราณที่ใส่ขวดโหลในสมัยก่อน (Old Fashioned Blue Mint Candy) ถ้านึกออกแล้ว อันนั้นแหละครับ ใช่เลย ขยายความก็คือสีฟ้าอ่อนที่เจือสีเขียวอ่อนลงไปราวๆ 30% ความอิ่มตัวของสีปานกลาง-พาสเทล และมีโทนสว่างสะท้อนแสงแบบ Neon เลยละครับ

ผมได้เห็น Paraiba เป็นครั้งแรกในงาน "Bangkok Gems and Jewellery Trade Fair " ถ้าจำไม่ผิดน่าจะประมาณราวปี 1998 -1999 ที่บูทแสดงสินค้าของ"บริษัท Paul Wild" เพื่อนร่วมงานที่ไปเดินด้วยกันยังตะลึงในความสวยหวานของสีพลอย เป็นสีที่เราก็ไม่เคยเห็นมาก่อน จึงไม่สงสัยเลยว่าทำไมพลอย Paraiba จึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
น่าอัศจรรย์ที่ในธรรมชาติก็มีพลอยอยู่ชนิดหนึ่งที่มีสีสันบังเอิญไปพ้องกับสี Paraiba อย่างน่าฉงน เป็นตระกูลพลอยเนื้ออ่อนซึ่่่่งไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสักเท่าไร ชื่อว่าแร่ Apatite ซึ่งมี Calcium Phosphate เป็นส่วนประกอบหลัก คุณสมบัติของสีบังเอิญตรงกับ Paraiba ทุกประการ แถมยังเรืองแสงอีกด้วยแบบ Neon Greenish Sky Blue จากกระแสความนิยมในสี Paraiba ดีไซน์เนอร์บางส่วนเริ่มหันมาสนใจพลอยเนื้ออ่อนชนิดนี้ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับ Paraiba ที่มีราคาหลุดโลกไปแล้ว Apatite จากพลอยโนเนมกลายเป็นพลอยดีมีสไตล์ไปด้วยพลังอานิสงค์หนุนนำจาก Paraiba ผมเล่าเป็นเกร็ดขำๆเพื่อบันเทิงนะครับ เพื่อนๆอย่าไปซีเรียส Apatite เลยเป็นอัญมณีล้อเลียน (Imitation) ของ Paraibaไปแล้ว ที่หมือนขนาดว่าถ้านำมาวางเคียงกันเราจะแยกไม่ออกเลยทั้งๆที่เป็นแร่ธาตุต่างชนิดกันโดยสิ้นเชิง ธรรมชาติมักสร้างสรรสิ่งที่เราคาดไม่ถึงเสมอ ระหว่างรอเก็บสตางค์ซื้อ Paraiba ก็ชื่นชม Apatite ไปพลางๆก็ได้...อิอิ..

ในปัจจุบันบราซีลเป็นแหล่งหลักที่ผลิต Paraiba ออกสู่ตลาดอัญมณี (80%) เพราะหลังปี 2000 เป็นต้นมามีการพบทัวร์มาลีนสี Paraiba ในทวีปอาฟริกา เช่นในประเทศไนจีเรีย (เหมือง Uduka ในปี2001) และในโมแซมบิค (เขต Alto Ligonya ในปี2003) จากการวิเคราะห์ทางแล็ปได้ยืนยันว่าเป็น Paraiba Tourmaline แต่ก็ไม่ยินยอมให้เรียกชื่อว่า Paraiba ซึ่งเป็นชื่อตามพิกัดภูมิศาสตร์ พลอยจากแหล่งอาฟริกาคุณภาพสียังเป็นรองพลอยจากบราซีล คืออาจมีเหลือบสีอื่นปะปนอยู่บ้าง เช่นเหลือบเหลือง แต่การนำไปอบด้วยอุณภูมิความร้อนจะช่วยให้ตำแหน่งสีชัดขึ้นได้ พลอยบราซีลสีสวยแต่ทว่าหาพลอยขนาดเกิน 3 กะรัตได้ยากเหลือเกิน แถมราคายังสูงมาก ทำให้ตลาดมีแนวโน้มหันไปสนใจและนิยมนำพลอยจากโมแซมบิคไปจำหน่าย เนื่องจากมีราคาที่จับต้องได้มากกว่า และอีกประการคือ พลอยขนาดใหญ่เฉียด 10 กะรัตยังพอหาได้ไม่ยากนัก ทัวร์มาลีนสีแบบ Paraiba ของอาฟริกานั้น แม้จะอยู่ฐานะชื่อทางการค้าว่า "Paraiba-like Tourmaline" หรือ "Paraiba-like Gem"ก็ตาม ถ้าเรายึดถือเอาคุณค่าความงามเป็นตัวตั้งในการเลือกสรรอัญมณีแล้ว ชื่อแหล่งกำเนิดก็ไม่ได้มีความสำคัญแต่อย่างใด เพราะพลอยที่งดงามย่อมมีศักดิ์ศรี มีคุณค่าและสิทธิ์ในตัวมันเองที่สมควรได้รับการชื่นชม มันคล้ายกับทับทิมเลือดนกไม่ว่าจากโมกกหรือโมแซมบิคต่างก็มีคุณค่าควรต่อการชื่นชมเหมือนกันครับ
Paraiba ก็เช่นเดียวกับพลอยอื่นในกลุ่มทัวร์มาลีน การปรับคุณภาพด้วยการอบความร้อนเป็นเรื่องปรกติและยอมรับในสากล สำหรับ Paraiba การปรับคุณภาพมิได้ส่งผลให้ราคาแตกต่างหรือลดลงแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นอัญมณีสุดหายาก ราคาพลอยดิบและผ่านความร้อนมิได้ต่างกันเลย ผลลัพธ์จากการปรับปรุงนั้นเสถียรถาวร เราไม่จำเป็นต้องไปเคร่งครัดตรงประเด็นนี้ การปรับปรุงคุณภาพที่ส่งผลต่อราคาโดยตรงที่เราจะต้องระวังก็มีเฉพาะกรณีพลอยที่ชำรุดมีรอยแตกร้าวมากๆ แล้วต้องนำไปปรับให้ดูใสขึ้นด้วยการใช้วัสดุมาอุดเชื่อมรอยแตกอย่างประเภท Opticon Filler (สารโพลีเมอร์) เนื่้องจากวัสดุเป็นสิ่งแปลกปลอมที่เติมเข้าในเนื้อพลอย จึงส่งผลต่อราคาอย่างมีนัยยะสำคัญทีเดียว การตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียดโดยห้องปฏิบัติการตามมาตรฐานสากลเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอัญมณีที่มีราคาสูงครับ
เพื่อนๆก็ได้ใช้เวลาในอ่านกันพอสมควร หวังว่าคงจะได้สาระในบางมิติบางแง่มุมของพลอยหลากสีสันที่ชื่อว่าทัวร์มาลีนกันบ้าง มีข้อสงสัยก็สามารถส่งกระทู้มาถามกันในกลุ่มสนทนาบนเฟสบุ๊ค หรือที่ไลน์ไอดีของผมก็ได้ตามสะดวก แล้วพบกันอีกในคราวต่อไปครับ
2 มีนาคม 2562
ศิริวัฒน์ เจียมอนุสรณ์ (FGA)