
แนวทางการเลือกอัญมณีออนไลน์อย่างสังเขป
ปัจุบันวิทยาการทางด้านไอทีได้ช่วยให้เราสะดวกสบายในการค้นหาสินค้าและบริการต่างๆ แคตตาล็อกสินค้ามากมายมาอยู่ใกล้ตัวเราเพียงปลายนิ้วสัมผัส การสื่อสารยุคใหม่ทำให้เราเข้าถึงสินค้าได้มากกว่าในอดีต สินค้าอัญมณีก็เช่นเดียวกับสินค้าอื่นๆที่ระบบไอทีช่วยให้เราเข้าถึงได้โดยง่าย ในระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการค้าอัญมณีไม่ว่าบริษัทส่งออก ร้านค้าขายส่ง ผู้ค้าปลีก ไปจนกระทั่งอาชีพนักเดินพลอยอิสระต่างก็เข้ามาใช้อินเตอร์เน็ทในการสื่อสารกับลูกค้าด้วยการใช้ระบบโซเชียลเน็ทเวอร์ค เช่นเฟสบุ๊ค ไลน์ อินสตาแกรม เป็นต้น ผู้ค้าอิสระมีการรวมเป็นกลุ่มประมูลและซื้อ-ขายออนไลน์ตามสื่อโซเชียล และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ผู้ที่อยู่นอกวงการธุรกิจการค้าอัญมณีอาจไม่สันทัดในการพิจารณาคุณสมบัติของสินค้าผ่านจอสมาร์ทโฟนหรือบนจอคอมพิวเตอร์ ภาพสินค้าที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอมอนิเตอร์อาจไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจ แล้วมีปัจจัยรายละเอียดอะไรบ้างเล่าที่พอจะใช้เป็นแนวทางในการเลือกและตัดสินใจ?
ผมสรูปมาเป็นหัวข้อสั้นๆง่ายๆมุ่งใช้สำหรับการพิจารณาอัญมณีประเภทพลอยเท่านั้น (Colored Gems) ที่ไม่กล่าวถึงเพชรในที่นี้เพราะประการแรกเพชรคืออัญมณีไร้สี และอีกประการต่อมาคือว่าเพชรนั้นมีสูตรการเจียรนัยที่เจาะจงตายตัว มุมองศาและขนาดสัดส่วนของเพชร (Dimension) นั้นสัมพันธ์กับขนาดน้ำหนัก (Carat Weight) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพชรทรงกลมนั้น ขนาดน้ำหนัก (กะรัต) สามารถบอกขนาดสัดส่วนเพชรได้ค่อนข้างแน่นอน ในที่นี้ผมจะมุ่งประเด็นไปที่การเลือกอัญมณีประเภทพลอยเท่านั้นครับ ว่าจะต้องพิจารณาองค์ประกอบในด้านคุณสมบัติอะไรบ้าง และยังเพิ่มเติมส่วนเงื่อนไขประกอบการซื้อ-ขายบางประการที่เราควรให้ความสนใจดังนี้
ขนาดน้ำหนัก (Carat Weight) น้ำหนักกะรัตของพลอยสามารถบอกถึงขนาดของพลอยได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่บอกได้ไม่หมด เพราะการเจียรนัยพลอยมุ่งไปที่การรักษาน้ำหนัก ทำให้พลอยบางเม็ดก้นลึกหน้าแคบ บางเม็ดหน้ากว้างแต่ก้นตื้นก็มี ทำให้บางครั้งจำนวนกะรัตมันไม่ตรงกับขนาดหน้าพลอยที่เราคุ้นเคย การอ่านน้ำหนักกะรัตเราจำเป็นต้องพิจารณาควบคู่กับขนาดสัดส่วนไปพร้อมๆกันครับ (อยู่ในหัวข้อถัดไป)
ในการเลือกหาพลอย เราควรคำนึงถึงความได้สัดส่วนของการเจียรนัยมากกว่าขนาดน้ำหนักกะรัตครับ เน้นที่ความสวยงามของพลอย ยกตัวอย่างเช่นถ้าเรามีจุดประสงค์หาซื้อพลอยมาทำเครื่องประดับไว้ใส่เอง และเราได้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ขนาด 3 กะรัต แต่ทว่าเราได้พบเพียงพลอยที่ขนาด 2.95 กะรัตเท่านั้นที่สวยงามถูกใจตามที่เราต้องการ และยังประกอบกับหน้าพลอยที่ดูใหญ่เทียบได้กับพลอย 3 กะรัต กรณีเช่นนี้เราก็ไม่ควรลังเลเลยครับ ยกเว้นว่าเราซื้อมาเพื่อเก็บสะสมเอาไว้ และต้องการยืนยันตรงตัวเลขที่ขนาด 3 กะรัตเท่านั้น นั่นก็เป็นเรื่องอีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้เราต้องแสวงหากันต่อไป ในขนาดน้ำหนักที่เท่ากันพลอยเจียรนัยแบบเหลี่ยมจะดูใหญ่กว่าพลอยหลังเบี้ย นั่นก็เพราะว่าพลอยแบบเหลี่ยมส่วนกว้างที่สุดอยู่บนด้านหน้าของพลอย ตรงกันข้ามกับพลอยหลังเบี้ยที่ส่วนกว้างสุดจะอยู่ที่ฐานพลอย นอกจากนี้การกระจายแสงที่ดีของพลอยแบบเหลี่่ยมยังทำให้ดูเหมือนใหญ่ขึ้น ในขณะที่พลอยหลังเบี้ยนั้นดูเล็กกว่าเพราะมีการกระจายแสงได้น้อยกว่านั่นเอง
ขนาดสัดส่วน (Dimension) การอ่านค่าตัวเลขสัดส่วน ยกตัวอย่างเช่น 4.20x7.05x5.00 mm. สำหรับผู้ที่ไม่สันทัดอาจไม่เข้าใจและนึกภาพไม่ออก ผมแนะนำให้หาพลอยสักเม็ดหนึ่งในขนาดที่เราชอบเอาไว้เป็นมาตรฐานเปรียบเทียบ เราวัดขนาดของพลอยนั้นโดยให้หน่วยเป็นมิลลิเมตรและจำชุดตัวเลขนั้นไว้ เพื่อใช้เป็นแบบสามัญสำหรับการเทียบ ทีนี้เราก็จะเทียบพลอยที่เราจะซื้อว่ามันใหญ่หรือเล็กกว่าแบบของเราสักเท่าไร พึงสังเกตไว้ว่าพลอยสีอ่อนจะให้ความรู้สึกว่าดูใหญ่ และพลอยสีเข้มจะดูเล็กกว่าความเป็นจริง ดังนั้นการยึดถือตัวเลขสัดส่วนจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งครับ
สี (Color) สีพลอยที่ปรากฏบนจอภาพอาจใกล้เคียงความเป็นจริง หรืออาจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงก็ได้ เพราะว่าสีของภาพนั้นสัมพันธ์กับแสงและเวลาที่ถ่ายภาพ พลอยเม็ดเดียวกันถ้าเราบันทึกภาพด้วยแสงธรรมชาติในเวลาที่แตกต่างกันย่อมให้สีที่แตกต่างกัน อนึ่งสีบนจอภาพยังขึ้นกับคุณภาพและรุ่นของสมาร์ทโฟนและเครื่องพีซีที่แตกต่างกันอีกด้วย ดังนั้นให้เราพิจารณาสีที่ระบุเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นหลักจะดีกว่า ให้เรายึดถือตามตัวหนังสือนั้น (อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ "
สีสันกับอัญมณี") เช่น Pinkish Red คือสีแดงอมชมพู Redish Pink คือสีชมพูอมแดง เป็นต้น และยิ่งกว่านั้นยังมีคำศัพท์เฉพาะที่ระบุตำแหน่งสีได้ชัดเจน ตัวอย่างกลุ่มสีน้ำเงินมี Royal Blue, Cornflower, Peacock, Velvet etc. ส่วนในสีแดงก็มีตัวอย่างเช่น Crimson, Scarlet, Carmine เป็นต้น เราควรศึกษาและทำความคุ้นเคยกับคำศัพท์เหล่านี้ ห้องปฏิบัติการตรวจอัญมณีที่มีความเชียวชาญจะสามารถระบุชื่อสีได้อย่างแม่นยำ ในกรณีที่เราคัดพลอยหมู่ (Melee Size) มาใส่ตัวเรือนเครื่องประดับ เราควรพิจารณาพลอยที่มีสีอ่อนกว่าแบบที่เราต้องการสักเล็กน้อย เพราะการผังพลอยบนตัวเรือนทำให้สีพลอยดูเข้มขึ้นอีกเล็กน้อย
ความสะอาด ปัจจุบันวงการค้าพลอยมีการหยิบยืมหลักการประเมินความสะอาดในเพชรมาประยุกต์ใช้ มาช่วยบ่งชี้ความใสสะอาดในเนื้อพลอยได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจจะคลาดเคลื่อนไม่ตรงความเป็นจริงเสียทีเดียว หลักการประเมินนั้นเราใช้กล้องขยายระดับ 10x และเราต้องทำความรู้จักกับคำศัพท์บอกความสะอาดในระดับต่างๆ เช่น IF หมายถึงไร้ตำหนิโดยสิ้นเชิงซึ่งค่อนข้างหายากหรือแทบเป็นไปไม่ได้สำหรับพลอยสี VVS คือตำหนิน้อยมาก ซึ่งนี่ก็น่าจะตรงกับระดับความสะอาดสูงสุดของพลอยส่วนใหญ่ หมายถึงลักษณะตำหนิที่เราส่องกล้องก็เห็นได้ไม่ชัดเจน VS คือตำหนิน้อยแต่เริ่มมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแต่ต้องใช้ความสังเกตพอสมควร SI คือตำหนิที่มองเห็นชัดเจนด้วยตาเปล่า แต่ก็ไม่มากจนบดบังความงามของพลอย อักษรย่อพวกน่ี้เราต้องรู้จัก ต้องทำความคุ้นเคยครับ การบอกกล่าวด้วยวาจาของผู้ขายอาจไม่เพียงพอ เพราะผู้ค้าแต่ท่านอาจสื่อสารไม่ตรงกัน การระบุจากห้องแล็ปตรวจอัญมณีจะแม่นยำกว่า
การปรับคุณภาพ หรือที่เราเรียกว่า "Treatment" นั้น "Heat Treatment" เป็นสิ่งยอมรับกันทั่วโลก ยกตัวอย่างเช่น Blue Sapphire เกือบทั้งหมดจากศรีลังกา (90%) ได้ผ่านการปรับคุณภาพด้วยความร้อนมาแล้ว การใช้ความร้อนกับพลอยเป็นการเลียนแบบพัฒนาการธรรมชาติทางธรณีวิทยา ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้มีความถาวรตลอดไป พึงสังวรไว้ว่า คำศัพท์ "เผาใหม่" ในทางการค้าไม่ได้หมายถึงการการปรับคุณภาพด้วยความร้อนแต่อย่างใด ทว่าคือกรรมวิธีเคลือบชุบพลอยในสารแก้วซิลิก้อนเพื่อปกปิดรอยแตกร้าว ภาษาอังกฤษใช้คำว่า "Fracture Filling" ที่นัยยะหมายถึงการชุบและอุดรอยแตกด้วยแก้ว และในเนื้อแก้วนั้นบางครั้งก็ผสมสีเข้าไปด้วย ซึ่งแก้วไม่ใข่วัสดุจากธรรมชาติ ตลาดอัญมณีทั่วโลกไม่ให้การยอมรับ
อ่านผลตรวจห้องแล็ป ใน Lab Report จะมีรายละเอียดด้านคุณสมบัติที่ช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เราควรอ่านเอกสารรายงานที่ระบุคุณสมบัติต่างๆและเนื้อความในคอมเมนต์ของอัญมณีนั้นๆ พลอยจะต้องถูกตรวจในห้องแล็ปพร้อมเอกสารที่ออกโดยนักอัญมณีศาสตร์
เงื่อนไขประการอื่นๆ -
การนัดหมายดูสินค้า กรณีย์สินค้าราคาสูงนั้น ส่วนใหญ่มักจะมีการนัดขอดูสินค้า ผู้ขายต้องอำนวยความสะดวกในการนัดชมสินค้า
-
เอกสารประกอบการขาย ใบรับประกันสินค้าออกโดยร้านค้าเรียกว่า "Warranty" และใบเซอร์ "Lab Certificate"/"Lab Report" มันไม่ใช่สิ่งเดียวกัน มีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจผิดและสับสน ใบเซอร์เป็นเอกสารระบุผลการตรวจพิสูจน์จากห้องปฏิบัติการ
อนึ่งการระบุในเนื่อความโฆษณาด้วยคำว่า "
พลอยแท้" นั้นอาจมีความกำกวม เพราะว่าพลอยแท้มีอยู่สองประเภทด้วยกัน คือพลอยแท้จากธรรมชาติ (Natural Gems) พลอยแท้แบบสังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทัดเทียมพลอยธรรมชาติ (Synthetic Gems / Lab Created Gems)
-
การประกันความพึงพอใจ ผู้ค้าควรมีความรับผิดชอบในกรณีที่สินค้าที่ส่งมอบไม่ตรงกับที่ระบุไว้ ต้องสามารถเปลี่ยนสินค้าใหม่ได้ หรือหากไม่พอใจในสินค้านั้นก็สามารถคืนเงินตามเงื่อนไขในเวลาที่กำหนดไว้แน่นอนเป็นต้น ผู้ค้าต้องสามารถตอบคำถามและอธิบายรายละเอียดของสินค้าและเงื่อนไขการบริการประกอบการขายให้ชัดเจน
-
สถานที่ตั้ง หรือร้านค้า ผู้ค้าที่น่าเชื่อถือควรจะมีสถานที่ตั้งแน่นอนที่ลูกค้าสามารถติดต่อได้กรณีย์เกิดปัญหา ร้านค้าควรมีเว็บไซต์ที่เราสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ในเบื้องต้น ควรมีที่อยู่อีเมล์ ไลน์ไอดี และโทรศัพท์เพื่อความสะดวกในการติดต่อสอบถาม
โดยสรูปแล้วอัญมณีนั้นแตกต่างจากสินค้าสำเร็จรูปประเภทอื่นๆ ที่เราจำเป็นต้องมีพื้นฐานความรู้ความเข้าใจในอัญมณีอยู่บ้าง ที่จะช่วยให้เราสามารถเลือกและตัดสินใจได้ถูกต้อง ผมหวังว่าบทความสั้นๆนี้พอจะเป็นแนวทางอย่างสังเขปที่แต่ละท่านสามารถนำไปปฏิบัติหรือนำไปประยุกต์ใช้ได้บ้างในการค้นหาอัญมณีประเภทพลอยผ่านร้านค้าออนไลน์และเพลิดเพลินกับการช็อบปิ้งกันครับ
7 มกราคม 2562
ศิริวัฒน์ เจียมอนุสรณ์ (FGA)