หลักการเลือกพลอยสตาร์ที่ดี
ครั้งนี้เรามาเรียนรู้วิธีการเลือกหาสตาร์แซฟไฟร์ที่มีลักษณะดีกันครับ ผมได้รวบรวมวิธีการสังเกตพลอยสตาร์แซฟไฟร์มานำเสนอ หลักการนี้นำไปใช้ได้กับพลอยสตาร์ทุกประเภท คุณสมบัติที่ดีควรมีดังนี้ต่อไปนี้
คุณสมบัติของพลอยสตาร์ที่ดี
1.ความโค้งนูนของหลังเบี้ย
หลังเบี้ยหรือโดมต้องมีความโค้งและนูนออกจากฐานพลอย (well-curved and protruding dome)และต้องได้สัดส่วนที่ดี เพื่อที่เราจะมองเห็นสาแหรกหรือสำแสงรูปดาวหกแฉกได้ในทุกทิศทาง ยามเราหมุนพลอยไปมาเราจะเห็นขาของสตาร์เคลื่อนที่ตามสายตาเราตามทิศทางที่เราหมุน เสมือนกับว่ามันลอยไปมาได้เป็นอัศจรรย์ นี่คือลักษณะการเล่นแสงสตาร์ที่สวยงามแบบอุดมคติ มีสำนวนเรียกสตาร์ลักษณะนี้ว่า “สตาร์ลอย” (Hovering star)
หากพลอยสตาร์นั้นมีหน้าแบนราบ หรือไม่นูนออกมากเท่าที่ควร ผลก็คือเราจะเห็นลำแสงรูปดาวเมื่อมองตรงด้านหน้าเพียงด้านเดียว พลอยนั้นก็ไม่แสดงการเคลื่อนไหวของสตาร์ไปรอบทิศทาง พลอยไม่มีมิติของการเคลื่อนไหว ไร้ชีวิตชีวา นั่นทำให้เสน่ย์ของพลอยลดลงไปมาก ขาดความน่าสนใจ ฉะนั้นจงจำไว้ว่าควรหลีกเลี่ยงพลอยที่หน้าแบนราบอย่างหน้ากระดาน (Table-flat)
มีตัวอย่างแสดงเปรียบเทียบให้ดูตามรูปภาพ
รูปแรกทางซ้ายมือคือแหวนพลอยที่แบบราบเราจะเห็นแสงสตาร์เฉพาะด้านหน้าเมื่อเรามองไปตรงๆเท่านั้น ส่วนภาพที่อยู่ถัดมาเป็นพลอยที่มีความโค้งนูน สตาร์สามารถเคลื่อนที่ไปตามทิศที่เราหมุนพลอย เราจึงเห็นลำแสงสตาร์เป็นหกแฉกจากทุกๆด้าน
ลองชมภาพเคลื่อนไหวด้านล่างนี้ ที่แสดงถึงสตาร์ที่มีรูปร่างโค้งนูนแบบในอุดมคติ
2.พื้นฉากหลัง
พื้นฉากหลัง หรือว่าสีตัวพลอย (Background/Body color) มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันคือพื้นฉากหลังที่ช่วยเสริมให้ตัวขาสตาร์ชัดเจนเด่น และมองเห็นได้ง่ายในระยะไกล หากพื้นหลังมีสีเข้มจะขับให้ขาสตาร์เห็นชัด หากพลอยมีสีอ่อนหรือจางขาสตาร์จะดูเลือนลางกลืนไปกับฉากหลัง พื้นหลังอาจเป็นสีพื้นเรียบๆ หรือว่ามีลายในเนื้อพลอยที่เป็นเอกสักษณ์ของแร่คอรันดัมก็ได้ นั่นก็เพิ่มเสน่ย์อีกแบบหนึ่งให้กับพลอย แต่จำไว้ว่าสีผิวพลอยต้องเข้มเพื่อให้สตาร์เด่น3.ลักษณะของสาแหรก (Star Ray)
สาแหรกหรือขาสตาร์ ส่วนนี้คือส่วนที่สำคัญที่สุด มันคือหัวใจของพลอยสตาร์ครับ ขาสตาร์ต้องมีครบหกแฉก และก็ไม่ควรให้มีขาแซมเข้ามาให้เกินกว่านี้ การมีขาแซมทำให้ขาดความคมชัด เมื่อมองจากระยะห่างมันคล้ายกับเหลือบแสงธรรมดาบนหน้าพลอย ไม่มีความโดดเด่นเลย
ขาสตาร์(สาแหรก) เกิดจากเส้นใยแร่สองชนิด คือ แร่ Rutile และแร่ Hematite อยู่ในเนื้อพลอยที่ทักทอสานกันไปมาใน 3 ทิศทาง (อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ”ดวงดาวแห่งพื้นพิภพ”)
1. เส้นใยแร่ Rutile (Rutile silk) เส้นใยละเอียดบางเบา พบได้ในพลอยบลูสตาร์แซฟไฟร์ทั่วๆไป และพบในพลอยทับทิมที่กำเนิดในแหล่งหินแปรอย่างเช่นทับทิมสตาร์จากเมียนม่าร์ ขาสตาร์เกิดจากแร่ Rutile นั้นมีลักษณะเรียวบาง และให้ความวาวแบบแพรไหม (silky) เราจะเห็นตัวอย่างได้ในทับทิมพม่าที่มีลักษณะ”เนื้อแพร”
2. เส้นใยแร่ Hematite (Hematle needle/platlete ) เส้นใยลักษณะหนาและกว้างกว่าแร่รูไทล์ และมีความวาวมาก พบได้ในพลอยแบล็กสตาร์ และในสตาร์สีทอง (สตาร์บุษราคัม) ขาสตาร์ที่เกิดจากใยแร่ Hematite นั้นมีลักษณะและมีความแวววาวมากกว่าแร่ Rutile มันให้ความวาวคล้ายกึ่งโลหะ สตาร์ที่คุณภาพดีจึงมีความวาวแบบกึ่งโลหะ (semi-metalic ) พลอยแบล็กสตาร์ของไทย และสตาร์สีทอง (สตาร์บุษราคัม) คือตัวอย่างของพลอยที่อยู่ในกลุ่มนี้
ปรกติขาสตาร์มี 6 ขา (6แฉก) กรณีที่เกิดสตาร์ขาแซมเกิดกว่าหกขา เราอาจพบ 8,10 และ 12 ขา ที่เป็นเช่นนี้เกิดจากในพลอยนั้นมีทั้งเส้นใยแร่ Rutile และเส้นใยแร่ Hematite เกิดอยู่ร่วมกัน กล่าวคือมีระบบของเส้นใยที่ทักทอกันถึงสองชุดภายในพลอยเม็ดเดียวกัน ทำให้เกิดสตาร์ถึงสองชุดในพลอยเม็ดเดียวกัน นับว่าเป็นความแปลกของธรรมชาติอย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตามมันก็ทำให้ภาพรวมของสตาร์ขาดความคมชัด ดูไม่เด่นเท่าที่ควร มักพบได้บ่อยในพลอยแบล็กสตาร์จาก อ.บ่อพลอยกาญจนบุรี และพลอยสตาร์จากแอฟริกา
ไม่ว่าจะเป็นสตาร์ที่ก่อกำเนิดจากเส้นใยแร่ชนิดไหน ลักษณะขาสตาร์ที่ดีควรมีลักษณะดังนี้
1. ขาสตาร์เหยียดตรง ไม่เบี้ยว
2. ขาสตาร์ยาวไปถึงด้านข้างพลอย
3. ขาสตาร์ต้องตั้งอยู่ตรงกึ่งกลางพลอย ไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง (Well-centered star)
4. ไม่ควรมีขาแซมทำให้เกินกว่าจำนวนหกแฉก (ตามที่อธิบายไปแล้ว)
5. ขาสตาร์คมชัด ( Sharp) ต้องไม่มีลักษณะที่มัวหรือเบลอ
6. ขาสตาร์เคลื่อนไหวไปตามแสงอย่างว่องไว อย่างที่เราเรียก “สตาร์ลอย” (Hovering Star Ray) สตาร์ลักษณะนี้เกิดจากคุณภาพความหนาแน่นของเส้นใยและความโค้งนูนได้สัดส่วนของหลังเบี้ยมาประกอบกัน
เครื่องประดับที่คู่ควรบุรุษอาชาไนย
สีพื้นหลังที่เข้ม (น้ำเงิน น้ำตาล และเทาเข้ม) นั้นแสดงอารมณ์หรือบุคคลิคเคร่งขรึม แข็งแกร่ง และสุขุมลุ่มลึกแห่งบุรุษอาชาไนย ยามต้องแสงขอบฟ้ามองเห็นเหลือบวาวสีเงินยวงปรากฏอยู่หน้าพลอย และในเหลือบอาจมีลวดลายเอกลักษณ์ที่เรียกว่า”บั้งนายพล” มันก็ให้ความรู้สึกลึกลับแปลกตาน่าค้นหา และเมื่อลำแสงจ้ากระทบกับพลอยก็ปรากฏดวงดาวหกแฉก เคลื่อนไหวกลอกกลิ้งไปมาหยอกล้อกับแสง และท้าทายสายตาชวนให้มอง มันอาจแสดงถึงความมีชีวิตชีวาพลังธรรมชาติ หรือพลังแห่งจักรวาล นั่นก็แล้วแต่จินตนาการส่วนบุคคล
ในสายตาของผมความงามของพลอยสตาร์แซฟไฟร์ของไทย มันมีมิติซ้อนกันหลายชั้น เชิญชวนให้เราเข้าไปค้นหาติดตามครับ ผมจินตนาการถึงน้ำหอมที่ปรุงอย่างประณีตที่ค่อยสยายกลิ่นทีละนิด ตั้งแต่กลิ่นเริ่มต้น กลิ่นกลาง และกลิ่นปลาย หรือท่านอาจจินตนาการบรรเจิดไปถึงเหล้าไวน์ดีมีตระกูลก็ได้ โลกของสุนทรียภาพนั้นไม่มีขอบเขตหรอกครับ พลอยเม็ดงามนี้ช่างเหมาะสมไปประดับบนเรือนแหวนของท่านสุภาพบุรุษอย่างยิ่ง มันมีเสน่ย์เป็นเอกลักษณ์ในตัวมัน มันไม่เหมือนกับเพชรในเครื่องประดับสตรีที่ส่องแสงวูปวาบกระแทกสายตา ที่มันแสดงไฮไลท์ของมันอย่างกระทันหันทันทีทันใด หากสตาร์แซฟไฟร์มันค่อยๆเฉลย ค่อยๆเผยมิติความงามของมันออกมา ตามขั้นตอน ตามจังหวะของแสงที่สาดส่องเข้ามา
ท่านสุภาพบุรุษครับ ท่านได้หาเครื่องประดับที่คู่ควรมาเสริมบุคลิกท่านแล้วหรือยังครับ
ศิริวัฒน์ เจียมอนุสรณ์ (FGA)
(10 มิถุนายน 2561)
คลีนิกอัญมณี
"คลีนิกอัญมณี" เป็นคอลั่มน์รวมบทความต่างๆทางอัญมณีศาตร์ ทั้งที่เกี่ยวกับแวดวงการค้าอัญมณี และในเชิงวิชาการของการตรวจวิเคราะห์พลอยประเภทต่างๆในห้องแลบ ยังรวมไปถึงเรื่องราวอัญมณีที่อยู่ในกระแสความสนใจซึ่งอาจมาจากคำถามที่พบบ่อยเป็นต้น บทความที่ผมเขียนขึ้นจะถูกรวบรวมไว้ในที่นี้ ท่านสามารถติดตามบทความใหม่ของเราที่จะนำเสนอเป็นระยะๆ รวมถึ่งการอ่านเรื่องย้อนหลังได่อีกด้วย
วัฒน์
(หมอพลอย)
หน้าที่เข้าชม | 368,250 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 271,001 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ก.พ. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 20 ส.ค. 2568 |
ติดต่อสอบถาม
โทรศัพท์: 081-8102763
LINE ID: siriwat28
siriwat.jiamanusorn@gmail
Fanpage: @jwlab.gem